ได้คุยกับผู้ต้องขังเสื้อแดง 4 คน ได้ข่าวไม่ค่อยดี คือ ผู้ต้องขังเสื้อแดงตอนนี้ลำบากมาก ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ และหลายคนก็เริ่มมีอาการ "รั่ว" กันบ้างแล้ว
พี่หนุ่ม เรดนนท์(เหยื่อที่ถูกขังด้วยคดีหมิ่นฯ) เสนอให้ทำเป็นแคมเปนซื้อของขวัญให้เพื่อน
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 49 คน และที่ฑัณทสถานหญิงอีก 4 คน รวม 53 คน
เราเห็นด้วย และคิดว่าเราคนที่อยู่ข้างนอกหลายคนก็คงเห็นด้วยเช่นกัน
ทางทีมงาน จึงเสนอเป็นแคมเปญ "ของขวัญสีแดงแด่เพื่อนสีแดง"
โดยของขวัญ 1 กล่องประกอบไปด้วยของใช้ที่จำเป็นและอาหารบางส่วน เพื่อมอบให้แด่นักโทษการเมืองเสื้อแดงในเรือนจำทั้ง 49 คน
ในเบื้องต้นประเมินราคาของขวัญแต่ละชุดที่จัดให้พี่น้องเราไว้ที่ชิ้นละ 300 บาท แต่เมื่อถึงเวลากิจกรรมจริงพบว่า เซ็ตหนึ่งราคาสูงถึง 580 - 590 บาท โดยทางทีมงานได้รับบริจาคเรี่ยไรเงินจากพี่น้องเสื้อแดงเพื่อมาทำกิจกรรมในครั้งนี้ รวมยอดบัญชีเมื่อคืนได้รับบริจาค ประมาณ 58,000 บาท และรายได้จากการขายเสื้อที่ระลึกและกล่องบริจาคอีกประมาณ 8,800 บาท ได้เบิกจ่ายนำมาซื้อของขวัญจำนวน 49 ชุดที่เรือนจำพิเศษชาย และ 4 ชุด ที่ทัณฑสถานหญิง เป็นจำนวนเงินประมาณ 35,000 บาท ยอดบัญชีส่วนที่เหลือจะนำไปทำกิจกรรมเดิมรอบสองในวันที่ 19 สิงหาคม 2554
หลังจากช่วงเช้าซึ่งมีความทุลักทุเลนิดหน่อยในเรื่องการติดต่อประสานงานกับผอ.เรือนจำ เพื่อตีเยี่ยมนักโทษเสื้อแดงพร้อมกันทีเดียว 49 คน ทางผอ.เรือนจำได้อนุมัติ จึงได้คิวเยี่ยม ในเวลา 12.30 น. ต้องขอบพระคุณท่านผอ.เรือนจำมา ณ ที่นี้ และทางเจ้าหน้าที่แนะนำว่าครั้งหน้าให้ติดต่อล่วงหน้า ห้องจะได้ไม่เต็ม คิวจะได้ไม่สายนัก
หลังจากแกนนำนปช.อย่างหมอเหวง-อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ พี่เจ๋ง ดอกจิก เฮียสมหวัง อัสราษี พี่วรวุฒิ วิชัยดิษ ฯลฯ รวมถึงพี่น้องเสื้อแดงนปช.บางส่วนเดินทางเข้าเยี่ยมพี่ตู่ จตุพร อ.นิสิต สินธุไพร อ.สุรชัย แซ่ด่าน พี่สมยศ พฤกษาเกษมสุข ในรอบ 11.10 น. และทยอยเดินทางกลับกันไปบ้าง พอแกนนำเดินทางกลับไปกันหมด มวลชนส่วนหนึ่งยังอยู่ร่วมกิจกรรมมอบของขวัญให้พี่น้องเราอีกหลายคน
เมื่อถึงเวลา 12.30 น. มวลชนเสื้อแดงที่มาร่วมกิจกรรมนี้ก็เข้าไปรอกันในห้องเยี่ยมรวม เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ หลายคนไม่เคยทราบมาก่อนด้วยซ้ำ ว่าในเรือนจำนี้ยังมีพี่น้องเสื้อแดงติดคุกอยู่มากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่บางคนมาเยี่ยมแกนนำทุกวัน ก็ต่างแปลกใจที่เห็นเรามาจัดกิจกรรมนี้กัน เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ายังมีคนเสื้อแดงถูกขังอยู่ ในตอนแรกได้รับแจ้งว่าตีเยี่ยมได้ 47 คน เนื่องจากพี่สมยศติดศาล และอ.สุรชัยเดินทางไปหาหมอและแล้วผู้คุมก็เบิกตัวนักโทษการเมืองทั้ง 49 คน ในห้องนั้นเราไม่เห็นพี่สมยศ แต่เราเห็นอ.สุรชัย ที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล และมีชาวต่างชาติอีกท่านหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีตีเยี่ยม แต่เพื่อนๆนักโทษก็มาแนะนำว่าเขาเป็นเสื้อแดง..แรกที่มวลชนเสื้อแดงข้างนอกได้เห็นพี่น้องเสื้อแดงที่ถูกจองจำอยู่ข้างในออกมายืนเรียงรายพร้อมหน้ากัน บางคนไม่รู้จะพูดอะไร ป้าคนหนึ่งยืนมองอยู่เงียบๆข้างกำแพง ดูการสนทนาพูดคุยของคนข้างในกับคนข้างนอก ..น้ำตาคลอเบ้า เป็นช่วงเวลาที่แสนปลื้มปิติ ที่พี่น้องเสื้อแดงได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง ได้ใต่ถามความเป็นอยู่ สารทุกข์สุขดิบ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน บางคนยิ้มให้กัน บางคนโบกมือให้กัน บางคนมองตากัน หลายคนหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกัน ภาพตรงนั้น ทั้งข้างหน้า และข้างหลังลูกกรง ต่างนองด้วยน้ำตา
พี่น้องทั้ง 49 คนก็ต่างไม่นึกไม่ฝัน ว่าจะมีมวลชนเสื้อแดงมาเยี่ยม บางคนไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเลย บางคนพิการตาบอดสองข้างอยู่ข้างใน บางคนสติเริ่มไม่ปกติ หลายคนทักทายกันพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน รู้แค่ว่า เราเสื้อแดงเหมือนกัน หลายคนเคยรู้จักกันมา มาพบตัวจริงกันอีกทีอีกฝ่ายหนึ่งก็อยู่ในคุก หลายคนชะเง้อหา หวังว่าจะมีคนทัก คนพูดคุยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แต่แน่นอนว่าคงทำไม่ได้ครบหมดทั้ง 49 คนในระยะเวลาเพียงเท่านี้ บรรยากาศในห้องเยี่ยมปะปนกันไปด้วยรอยยิ้มและคราบน้ำตา เป็นภาพที่เรียกน้ำตาจากผมไปไม่น้อยเลยจริงๆ
หลังจากพบปะพูดคุยกันสักพักใหญ่ๆ ก็ได้ต่อคิวกันไปรับของขวัญ ซึ่งเป็นจำพวกของใช้ประจำวัน อาหารแห้ง บุหรี่(จำเป็นกับคนในเรือนจำมาก)
สิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้คือ บทสัมภาษณ์ของนักโทษการเมือง 4 คน ที่ตกเป็นเหยื่อของกฎหมายอาญามาตรา 112 คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขอนำเสนอสรุปไว้คร่าวๆดังนี้
1.อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
อาจารย์ดูผอมลงและยังคงต่อสู้อยู่ และสุขภาพก็ไม่สู้จะดีนัก แต่ก็ยิ้มแย้มสดใสเมื่อมีคนมาเยี่ยม อาจารย์ฝากมาบอกลูกศิษย์ลูกหาข้างนอก และมวลชนสายปฏิวัติ สายแดงสยาม ว่า สิ่งสำคัญที่เราต้องต่อสู้ต่อไป ธงหลักๆก็คือ การใช้กลไกของรัฐบาลจากประชาชน ลดอำนาจศาล ลดอำนาจกองทัพ ลดอำนาจองค์กรอิสระ เพื่อตัดแขนตัดขาของฝ่ายอำมาตย์ที่จะใช้มาทำลายเล่นงานประชาชนและพรรคที่ประชาชนเลือก
โดยข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมคือ รณรงค์เรื่องการประกันตัว การปล่อยตัวชั่วคราวกับนักโทษการเมืองทุกคดีี ให้สำเร็จ เน้นย้ำการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ในป.วิอาญา
มาตรา 107 : เมื่อได้รับคำร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้เจ้าพนักงานหรือศาลรีบสั่งอย่างรวดเร็ว และผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนพึงได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 108มาตรา108/1 มาตรา 109 มาตรา110 มาตรา 111 มาตรา112 มาตรา 113 และ มาตรา 113/1
คำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวโดยทันที
2.นายณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ (คดีส่งคลิป จากเว็บฟ้าเดียวกัน)
ผมได้ถามพี่ณัฐว่า มีอะไรอยากฝากบอกเพื่อนๆในเว็บฟ้าเดียวกันไหม
พี่ณัฐทำหน้าตกใจและตอบกลับมาว่า เว็บฟ้าเดียวกันยังอยู่อีกหรือ?
ผมตอบว่าอยู่ครับ แต่เปลี่ยนชื่อเป็น"คนเหมือนกัน"
พี่ณัฐตอบว่า ฝากบอกให้ทุกๆคนระมัดระวังตัวกฎหมายบ้านี่มันอะไรก็ไม่รู้ ส่งคลิปทางอีเมล์คลิปเดียว เล่นงานผมตั้ง 4 ปี 6 เดือน ผมไม่นึกเลยว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรขนาดนี้ ขอให้เพื่อนๆฟ้าเดียวกันระวังตัวกันด้วย
ผมถามต่อไปว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงพี่น้องเสื้อแดงที่ต่อสู้อยู่ข้างนอกหรือไม่
พี่ณัฐตอบอย่างเศร้าๆว่า ขอขอบคุณกำลังใจทุกๆคนที่ส่งมาให้ผม
ผมถามต่อไปว่า มีใครมาเยี่ยมพี่บ้างไหมครับ?
พี่ณัฐตอบว่า "ไม่มี ไม่มีเลย" ....
3.นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ (โจ ดับบลิว กอร์ดอน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นฯสัญชาติอเมริกา)
พี่โจมีอะไรอยากจะบอกกับพี่น้องชาวเน็ตที่อยู่ข้างนอกบ้างไหมครับ
พี่โจตอบ(พูดไทยไม่ค่อยชัด) ว่า ครับ มีครับ ผมอยากให้ทุกคน ใครก็ได้ ช่วยเขียนจดหมายถึงโอบาม่า หรือฮิลลาี่ลี่ คลินตัน ให้ช่วยมาประกันตัวผม หรือช่วยกดดันเรื่องกฎหมายมาตรานี้ของไทยผ่านสภา เพราะผมเป็นพลเมืองอเมริกัน ไม่ใช่คนไทย อยากให้ใครที่มีช่องทางช่วยหาทางติดต่อโดยตรงให้ทีครับ หรือมีรายการข่าว-วาไรตี้ทีวีทางอเมริกาอยู่ช่องหนึ่งที่ผมพอรู้จักบ้าง(เขาเอ่ยชื่อรายการมา แต่ผมจำไม่ได้) อยากให้มาช่วยทำสกู๊ปผม จับประเด็นผม ให้ชาวอเมริกันได้ดู ได้เห็น ความไม่เป็นธรรมที่เกิดกับผมจากที่นี่ครับ
บทสัมภาษณ์นี้ ผมพูดคุยถามตอบกับพี่หนุ่ม ..ด้วยน้ำตาและหัวใจ
ผม : พี่หนุ่มคิดถึงน้องเว็บ(ลูกชายวัย 10ขวบ)มั๊ยครับ?
พี่หนุ่ม : มากครับ มากที่สุด (หน้าอมยิ้มแต่น้ำตาคลอเบ้า)
ผม : พี่หนุ่มรู้สึกอย่างไรบ้าง ที่กิจกรรมที่พี่หนุ่มคิด ริเริ่ม นำเสนอกับพี่ทนาย ได้เกิดขึ้นจริงและออกมาในรูปแบบนี้ครับ
พี่หนุ่ม : ผมดีใจมาก ไม่คาดคิดมาก่อน ตอนแรกผมแค่เสนอว่าพี่น้องข้างในขาดสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวก ขนม นม เนย อาหารแห้งนะ เราอยู่กันอย่างลำบากมาก(พูดและหันไปมองเพื่อนๆนักโทษคนอื่นๆที่ยืนข้างๆด้วยสายตาให้กำลังใจ) ตอนแรกหวังเพียงว่าซื้อของซื้ออะไรเข้ามา นี่พาพี่น้องเสื้อแดงเข้ามาเยี่ยมกันข้างในได้ขนาดนี้ นี่พวกเราทำกันได้เกินคาดกันจริงๆพวกผมดีใจมากๆ และขอบคุณแทนพวกเราทุกๆคนที่อยู่ในนี้มากๆเลย ที่ทุกคนมากันในวันนี้ ถือว่าเป็นกำลังใจ ช่วยต่ออายุให้พวกผมที่ยังต้องติดคุกอยู่ข้างในอีกไม่รู้ถึงเมื่อไหร่ กำลังใจที่พี่น้องเสื้อแดงมาเยี่ยมกัน สิ่งนี้เหมือนต่ออายุพวกเราได้จริงๆ
ผม : ปกติไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยมพวกพี่ๆที่เป็นเสื้อแดงที่อยู่ข้างในกันเลยหรอครับ?
พี่หนุ่ม : ..ตลอดมา เราได้แต่เฝ้ามอง คนเสื้อแดงผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ได้แต่เฝ้ามองพวกเขาแวะมาเยี่ยมแกนนำกัน พวกเราก็เฝ้ามองดูอยู่ในนี้ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนมาเยี่ยมพวกเราบ้าง (พี่หนุ่มตอบประโยคนี้ด้วยเสียงสั่นเครืออย่างสิ้นหวังและหมดอาลัย น้ำตาซึมออกมา พลอยให้ผมร้องไห้ไปด้วย กับชะตากรรมที่เขาพบเจอ)
ผม : พี่หนุ่มอยากฝากบอกอะไรถึงพี่น้องเสื้อแดงในเน็ตและทางบ้านที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้ด้วยกันอยู่บ้างครับ?
พี่หนุ่ม : พี่น้องเสื้อแดงเรามีคนตายก็เยอะ มีคนเจ็บก็มากมาย ในคุกก็ยังมีคนถูกขัง อยากบอกว่าคนในคุกตอนนี้ลำบากมากจริงๆ ไม่ค่อยมีคนเหลียวแล ทั้งๆที่จริงๆทุกคนก็ต้องกินต้องใช้ และทนอยู่กับชะตากรรมที่ได้รับในคุกนี้ไม่รู้จะไปพึ่งใคร
ผม : พี่หนุ่มคาดหวังอะไรกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คนเสื้อแดงช่วยกันเลือกเข้าไปที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศมั๊ยครับ?
พี่หนุ่ม : ผมก็ไม่ได้คาดหวัง แต่อยากให้ช่วยเรื่องความยุติธรรมให้กับพวกผมให้กับนักโทษเสื้อแดงทุกๆคนด้วย ดังที่เป้าหมายของเสื้อแดงที่เลือกเข้าไป นั่นคือทวงถามความเป็นธรรมให้กับพวกเรา ทำยังไงก็ได้ขอช่วยพวกเราช่วยพี่น้องเราในนี้ออกไปด้วย เราไม่ค่อยจะไหวกันแล้ว
ผม : ขอให้พี่หนุ่มเข้มแข็งนะครับ พวกผมและพี่น้องเสื้อแดงข้างนอกจะไม่ทอดทิ้งพี่ๆและคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ข้างในนี้ ผมจะสู้ต่อจนกว่าพวกพี่จะได้รับความเป็นธรรมครับผมสัญญา เดือนหน้า วันที่ 19 ผมจะพาพี่ๆน้องๆเรามาเยี่ยมทุกๆคนอีกนะครับ
พี่หนุ่ม : ขอบคุณมากๆนะ ขอบคุณจริงๆ ต้องเข้มแข็งเช่นกันนะ ทุกคนในนี้หัวใจก็ยังสู้อยู่ครับ
หลังจากหมดเวลาเยี่ยม ผมปลีกตัวจากห้องเยี่ยมออกมาเช็ดน้ำตาที่มันไหลออกมาเองไม่หยุดจากตาทั้งสองข้าง ประกาศกับพี่น้องที่กำลังออกมาออกันอยู่ข้างหน้า ถึงกำหนดการจัดกิจกรรมในครั้งหน้า ในวันที่ 19 สิงหาคม มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งหยิบแบ้งค์พันออกมาสองใบ เอามายื่นให้ที่มือ บอกว่าพี่ขอสนับสนุนกิจกรรมครั้งหน้าไว้ก่อนเลย พี่ๆหลายคนก็บอกว่าจะมาร่วมด้วยแน่ๆ ยังไงก็จะมา ผมก็นำเงินสองพันบาทไปมอบต่อให้กับทนายอานนท์ และเตรียมไปเยี่ยมนักโทษการเมืองหญิงเสื้อแดงอีก 4 คน ที่ทัณฑสถานหญิงต่อไปโดยป๋าจอมตั๊ป กลุ่มสหายสีแดง รักราษฎร เมื่อ 25 กรกฎาคม 2011 เวลา 18:57 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น