31 กรกฎาคม 2554

กกต.ให้ผ่านแล้ว 'ตู่'เป็นสส. รับรอง-จันทร์นี้

เผยกกต.รับรอง'ตู่'แล้ว
แหล่งข่าวจากกกต. เปิดเผยว่า กรณีนายจตุพร นั้น ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติม ได้ส่งข้อมูลให้กกต.เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเขียนคำวินิจฉัยของแต่ละคน และจะมีการขานมติในการประชุมกกต.วันที่ 1 ส.ค. ต้องยอมรับว่าตอนนี้มีคนเข้าใจผิดกันมาก ว่ากกต.ต้องการจะแขวนหรือจะไม่รับรองให้นายจตุพร ให้เป็นส.ส. ทั้งที่ความจริง มติกกต.ที่ออกมา คือให้ยกคำร้อง 2 เสียง ให้มีการสอบเพิ่มเติม 1 เสียง ให้ตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย 1 เสียง และให้ใบแดง 1 เสียง เท่ากับตอนนี้นายจตุพร ได้รับการรับรองเป็นส.ส.ไปแล้ว เนื่องจากถ้าจะให้ใบแดง กกต.จะต้องมีเสียงถึง 4 เสียง แต่ตอนนี้มีถึง 2 เสียงที่ยกคำร้อง

แหล่งข่าวจากกกต. กล่าวว่า สมมติว่าในการประชุมกกต.วันที่ 1 ส.ค. กกต.อีก 2 เสียงที่ให้สอบเพิ่มจะให้ใบแดง นายจตุพร ก็ยังได้รับการรับรอง เพราะจะเท่ากับเสียงให้ใบแดงมีเพียง 3 เสียงเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมาย การใบแดงก่อนรับรองผลการเลือกตั้งจะต้องมีเสียงถึง 4 เสียง

อ้างช้า-รอทำสำนวนยื่นศาลรธน.
แหล่งข่าวจากกกต. กล่าวว่า สาเหตุที่กกต.ยังไม่ได้รับรองนายจตุพร ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจาก กกต.อยากให้มีความชัดเจนเรื่องกระบวนการหลังจากรับรองไปแล้วว่า ควรทำสำนวนส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ดำเนินการตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ส.ส.เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการเป็นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายจตุพร ว่า สิ้นสุดลงหรือไม่อย่างไร ดังนั้น การจะให้กกต.รับรองโดยไม่มีแนวทางต่อไป กกต.ทำไม่ได้

"ไม่เข้าใจว่าทำไมมีแต่คนเข้าใจผิดกันไปหมดว่า กกต.แขวนนายจตุพร ทั้งที่ความจริงตามข้อกฎหมาย นายจตุพร ได้การรับรองไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. เพราะมีถึง 2 เสียงที่ให้ยกคำร้อง" แหล่งข่าวจากกกต. กล่าว 
ประพันธ์ติดใจเรื่องไม่ใช้สิทธิ์
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานการเลือกตั้ง กล่าวว่า กรณีนายจตุพร ทางกกต.ยังไม่สามารถยืนยันว่าจะพิจารณาได้เสร็จสิ้นในวันที่ 1 ส.ค.นี้หรือไม่ เพราะต้องพิจารณาอย่างละเอียด จริงๆ แล้วนายจตุพร มีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครเพราะดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนแล้ว แม้จะถูกคุมขังอยู่ก็ตาม รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามผู้ถูกคุมขังลงสมัครรับเลือกตั้งเพราะยังไม่มีคำ พิพากษาตัดสินคดี ยกเว้นกรณีที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งประเด็นนี้ยังเป็นข้อสงสัยเพราะมีการแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับพรรคเมื่อปี 2553 ดังนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะต้องทำหนังสือชี้แจงยืนยันคุณสมบัติที่ถูกต้องของนายจตุพร ให้เป็นลายลักษณ์อักษรและยื่นให้กกต. เพื่อความชัดเจนในการพิจารณา

ปชป.ขู่กกต.ทำผิดกฎหมาย
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกลุ่มนปช. กดดันให้กกต.เร่งรับรองสถาน ภาพของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ส.ส. บัญชีรายชื่อและแกนนำ นปช.ว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นที่น่าอนาถใจ ที่ผ่านมานายจตุพร ถูกกักขังโดยหมายศาล ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2554 และกกต.เองที่ยื้อ ประวิงเวลาตรวจสอบคุณสมบัตินายจตุพร ให้ครบ 30 วันแล้วอ้างว่า พิจารณาไม่ทันจึงจำเป็นต้องประกาศรับรองผลไปก่อนนั้น ถือว่าหมิ่นเหม่ที่จะผิดต่อมาตรา 29 ของพ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง และมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นายวิรัตน์ กล่าวว่า อยากถามว่า บุคคลที่เป็นสมาชิกพรรค ที่ต้องถูกคุมขังโดยหมายของศาล สมาชิกภาพของบุคคลผู้นั้นต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 20 (3) ของพ.ร.บ. พรรคการเมืองปี 2550 หรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่า บุคคลผู้นั้นต้องไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละประเด็นข้อกฎหมาย เฉพาะประเด็นมาตรา 20 (3) ก็วินิจฉัยได้แล้วว่า นายจตุพรสิ้นสุดสมาชิกภาพไปแล้วทันทีโดยผลของกฎหมาย เพราะเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามทางการเมืองของมาตราดังกล่าว ประ กอบมาตรา 19 และมาตรา 8 ของ พ.ร.บ. พรรคการเมือง อีกด้วย ดังนั้น บุคคลใดที่ถูกคุมขังอยู่โดยคำสั่งศาล ถือว่าขาดสมาชิกภาพทันที โดยไม่ต้องดูเรื่องการลงคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ 

อัด'ตู่'รู้ตัวขาดคุณสมบัติ
"กรณีนี้นายจตุพรรู้ตัวเองว่าขาดสมาชิกภาพ รู้ว่าไม่มีสิทธิ์เป็นผู้สมัคร และขาดคุณสมบัติ แต่ยังดึงดันจะลงสมัคร จึงถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือ ตัวนายจตุพรและหัวหน้าพรรคที่เซ็นรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. เพราะถูกขังตามหมายศาลตั้งแต่ 12 พ.ค. 54 และมาสมัครรับเลือกตั้งหลังจากนั้น มันชัดเจน กรณีนี้มีโทษอาญาด้วย มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น - 2 แสนบาท และถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี ตามมาตรา 139 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว." นายวิรัตน์ กล่าว 

ชี้มีสิทธิ์ยุบเพื่อไทย
นายวิรัตน์ กล่าวว่า กรณีนี้ กกต.มีทางเลือก 2 ทางคือ 1.ต้องเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของนายจตุพร เหมือนเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะรู้อยู่แล้วว่านายจตุพร ไม่มีสิทธิ์ลงสมัครส.ส. แต่ยังลงสมัคร ผิดมาตรา 34 และ139 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งฯ 2.กกต.สามารถวินิจฉัยว่านายจตุพร ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณ สมบัติของการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตามมาตรา 20 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง ฉะนั้น ขอให้กกต.ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่างกล้าหาญเพื่อบ้านเมืองจะได้สงบ ขอให้เดินในแนวทางที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากรณีนี้มีโอกาสขยายผลถึงการยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะมีการเซ็นรับรองคุณสมบัติของนายจตุพร ว่าครบถ้วน ทั้งที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง นายวิรัตน์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคอาจถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี ในฐานะตัวการร่วมรู้เห็น ส่วนจะยุบพรรคได้หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าคงได้แค่เฉี่ยวๆ และมีโอกาส แต่หัวหน้าพรรคโดนแน่ 10 ปี

ที่มา: ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น